ภิกษุ ท. ! กิจของคฤหบดีชาวนาที่เขาจะต้องทำก่อน (แห่งการได้มา
ซึ่งข้าวเปลือก) มีสามอย่างเหล่านี้. สามอย่างอะไรบ้างเล่า ? สามอย่างคือ
คฤหบดีชาวนาในโลกนี้ ไถ คราด พื้นที่นาให้ดีเสียก่อน, ครั้นแล้วปลูกพืชลง
ในเวลาอันควร, ครั้นแล้ว ไขน้ำเข้าบ้าง ไขน้ำออกบ้าง ตามคราวที่สมควร.
ภิกษุ ท. ! กิจของคฤหบดีชาวนาที่เขาจะต้องทำก่อน (แห่งการได้มาซึ่งข้าวเปลือก) มีสามอย่างเหล่านี้แล ;
ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น : กิจที่ภิกษุจะต้องทำก่อน (แห่งการได้มาซึ่ง
มรรคผล) มีสามอย่างเหล่านี้. สามอย่างอะไรกันเล่า ? สามอย่างคือการสมาทาน
การปฏิบัติในศีลอันยิ่ง, การสมาทานการปฏิบัติในจิตอันยิ่ง, และการสมาทาน
การปฏิบัติในปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! กิจที่ภิกษุจะต้องทำก่อน (แห่งการได้มา
ซึ่งมรรคผล) มีสามอย่างเหล่านี้แล.
ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจ
ไว้ว่า “ความพอใจของเราจักต้องเข้มงวดพอ ในการสมาทานการปฏิบัติใน
ศีลอันยิ่ง, ในการสมาทานการปฏิบัติในจิตอันยิ่ง และในการสมาทานการ
ปฏิบัติในปัญญาอันยิ่ง” ดังนี้ ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจ
ไว้อย่างนี้ แล.
ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หมวดที่ ๑๐ ว่าด้วย การมีศีล หน้าที่ ๒๑๓/๔๖๖